วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

12 ศัพท์ควรรู้ก่อนเริ่มลงทุนอสังหา – คอนโด (สำหรับนักลงทุนมือใหม่) by Tooktee.com

นักลงทุนอสังหาฯ หลายๆคน ที่สนใจเริ่มลงทุนอสังหาฯ อาทิ คอนโด บ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สนใจซื้ออยู่เอง อาจจะงงกับคำศัพท์เฉพาะซึ่งไม่ค่อยได้ยินมาก่อน Tooktee.com จึงขอรวบรวมคำศัพท์ที่นักลงทุนอสังหาฯ มือใหม่จำเป็นต้องรู้ ที่ต้องรู้ความหมายของคำศัพท์ต่างๆ ก่อนที่จะซื้อ หรือลงทุนอสังหาฯ
https://www.tooktee.com/contents/detail/1985
  1. Presales /พรี – เซล /
    เป็นคำศัพท์ทางธุรกิจที่คุ้นเคยในหมู่นักลงทุนอสังหาฯ ประเภทคอนโด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เกิดการซื้อขายอสังหาฯ ในราคาช่วงก่อนเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ จึงทำให้นักลงทุนได้ราคาต่ำกว่าตลาด ประกอบกับสามารถเลือกจองตำแหน่งห้องชุดได้ก่อนคนอื่น ส่วนใหญ่ผู้ซื้อจะมีสิทธิ์ถือครองเป็นระยะเวลา 2-3 ปี ก่อนคอนโดสร้างเสร็จ ผู้ซื้อสามารถเลือกจองทำเลได้ก่อน และตัดสินใจซื้อได้จากการดูห้องตัวอย่างที่ทางโครงการจัดแสดงไว้ให้ ซึ่งเหมาะกับการลงทุนอสังหาฯ ระยะสั้น หรือเรียกได้ว่าเป็นแบบเก็งกำไร


     
  2. Resales /รี – เซล /
    Resale คือ ราคาขายต่อหลังจากที่โครงการนั้นได้สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งจะมีราคาสูงกว่า ช่วง Presales และเปิดตัวโครงการในระยะแรก ข้อดีของการซื้อช่วง Resales ในแง่ของผู้ซื้อคือ ได้เห็นสภาพบ้านหรือห้องชุด วัสดุที่ใช้ ทำเลที่ตั้ง ผู้ซื้อสามารถเห็นสภาพห้อง วัสดุที่ใช้ ทำเล วิวได้จริงทั้งหมด ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งนักลงทุนอสังหาฯ สามารถทำกำไรจาก Capital Gain หรือ Rental Yield ได้ในระยะยาว หรือในบางกรณี Resale คือการขายต่อสิทธิ์ในการจองโครงการก่อนโครงการสร้างเสร็จ หรือเรียกว่า ขายดาวน์  ในขณะที่นักลงทุนสามารถทำกำไรเพิ่มได้จากราคาขายในตลาดที่สูงขึ้น ทำให้ Capital Gain (ผลกำไรส่วนต่างจากราคาทรัพย์) เพิ่มขึ้นได้ในระยะยาว


     
  3. VIP Day /วีไอพี เดย์/
    วันพิเศษที่ผู้พัฒนาโครงการจัดขึ้นให้กับลูกค้าเก่าของบริษัท หรือผู้ที่ลงทะเบียนจองล่วงหน้า โดยจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งราคา ส่วนลด ของแถม รวมถึงการเลือกตำแหน่งห้องก่อนคนอื่น ส่วนใหญ่แล้ว ราคาที่ขายใน VIP Day จะเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในช่วงเวลาขายของโครงการ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อนำไปทำกำไรในการขายต่อได้ อีกทั้งผู้พัฒนายังได้ผลพลอยได้จากการมียอดจองบางส่วนก่อน Presales ทำให้โครงการดูน่าสนใจในการลงทุนซื้อ

    ลงทุนอสังหา
     
  4. Capital Gain /แคพ’ พิเทิล – เกน/
    สำหรับคำนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับนักลงทุนอสังหาฯ เนื่องจากเป็นการเก็งกำไรที่เกิดขึ้นจากมูลค่าของอสังหาฯ ซึ่งมีการปรับตัวจากวันที่ซื้อ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มักใช้ Capital Gain เป็นตัวตัดสินว่าโครงการอสังหาฯ นั้นคุ้มจะลงทุนหรือไม่  โดยการคำนวนด้วย เอากำไรตั้ง หารด้วยต้นทุนที่ซื้อมา และ คูณด้วย 100 จะเป็น % ของ Capital Gain ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนอสังหาฯ จะมองตัวนี้เป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้ออสังหาฯ ในตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด หรือมี Capital Gain ที่สูงสุด โดยเฉลี่ยแล้ว การลงทุนอสังหาฯ Capital gain อยู่ที่ 10 – 15% ต่อปี (สำหรับโครงการใหม่)


    กำไร / ต้นทุนที่ซื้อมา x 100 = % ของ Capital Gain

     
  5. Rental Yield Rate /เรน’ เทิล – ยีลด – เรท/
    เบื้องต้น Rental Yield จะบอกว่าคอนโดฯ ที่ซื้อมาลงทุนปล่อยเช่านั้นเทียบกับเงินลงทุนแล้วจะได้รับผลตอบแทนสักกี่มากน้อย คล้ายๆ กับค่า Dividend Yield หรืออัตราผลตอบแทนเงินปันผลจากการเล่นหุ้นนั่นเอง ยิ่งผลลัพธ์หรือเปอร์เซ็นต์ Rental Yield ยิ่งสูงก็เท่ากับว่าคอนโดฯ ที่เราซื้อยิ่งมีราคาถูกมากเท่านั้น ซึ่งในความหมายก็คือคอนโดฯ มีศักยภาพหรือมีความคุ้มค่าสูงในการลงทุน

    ความหมายของอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าทั้งในส่วนของคอนโดและบ้านตลอดทั้งปี ซึ่งนักลงทุนสามารถคาดคะเนรายได้จากสูตรคำนวณ โดยหากคิดออกมาแล้ว Rental Yield Rate อยู่ในระดับ 5-7% ถือว่าโครงการนั้นควรค่าแก่การลงทุน


    (ค่าเช่าที่จะได้รับต่อเดือน x 12) – ต้นทุน / ราคาที่ซื้อ x 100 = %


เว็บไซต์อ้างอิง https://www.tooktee.com/contents/detail/1985

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น