คนที่กำลังจะขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (สินเชื่อบ้าน) เพื่อซื้อบ้าน ซื้อคอนโดคงกำลังติดตามข่าวการรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ลง ว่าจะช่วยลดภาระในการขอสินเชื่อบ้าน เพื่อซื้อบ้านซื้อคอนโดได้จริงไหม? หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากเดิมที่ 1.75% เหลือ 1.50% เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ทำให้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย หลายคนคงสนใจว่าหลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านนี้ ใครจะได้ประโยชน์บ้าง และแต่ละธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปเท่าไหร่?
- ใครได้ประโยชน์บ้าง? คนที่คิดจะยื่นขอสินเชื่อบ้าน หรือมีภาระสินเชื่อบ้านอยู่ต้องอ่าน!
- อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านหลังปรับลด เหลือเท่าไหร่บ้าง?
ใครได้ประโยชน์บ้าง?
- สำหรับคนที่กำลังจะขอสินเชื่อบ้าน เพื่อซื้อบ้านซื้อคอนโด หรือผู้ขอสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ และ SME จะได้รับผลประโยชน์จากการที่ธนาคารพาณิชย์ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อมากที่สุด โดยปัจจุบัน ธนาคารหลายแห่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลง โดยเฉพาะดอกเบี้ย MRR (ดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อบ้าน หรือสินเชื่อลูกค้ารายย่อยชั้นดี) และ MOR (อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเกินบัญชี) ลงราว 0.125% - 0.250% อันจะเป็นประโยชน์กับผู้ขอสินเชื่อรายย่อย และ SME โดยเฉพาะคนที่กำลงจะขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งมักจะใช้อัตราดอกเบี้ย MRR เป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัวที่มักจะปรับขึ้นลงตามดอกเบี้ยนโยบาย เมื่ออัตราดอกเบี้ยที่ใช้ในการขอสินเชื่อบ้านถูกลง เราก็จะจ่ายค่าดอกเบี้ยน้อยลงไปด้วย
- สำหรับคนที่กำลังผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของคุณจะปรับลงตามอัตราดอกเบี้ยใหม่ของแต่ละธนาคาร แต่ภาระค่าผ่อนบ้านต่อเดือนไม่ได้ลดลง ธนาคารจะลดอัตราดอกเบี้ยต่อเดือนให้ ทำให้เราจ่ายเงินต้นต่อเดือนได้มากขึ้น ซึ่งมีข้อดีคือทำให้เราใช้ระยะเวลาผ่อนบ้านสั้นลง และปลดหนี้ได้ไวขึ้นนั่นเอง
- สำหรับคนที่ผ่อนบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ เช่น อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ 3% สำหรับ 3 ปีแรก จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ในช่วงเวลาที่ผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่
ในภาพรวมของประเทศ การลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะช่วยให้คนนำเงินมาจับจ่ายใช้สอยมากกว่านำไปฝากไว้กับธนาคาร อีกทั้งในส่วนของการลงทุนก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อบ้านลง ทำให้มีโอกาสในการลงทุนมากยิ่งขึ้นได้
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อหลังปรับลด เหลือเท่าไหร่บ้าง?
ตอนนี้ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 7 แห่ง ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลงแล้ว โดยมีอัตราที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทของดอกเบี้ย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ และแบบลอยตัว ซึ่งรูปแบบการกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) จะเป็นอัตราที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ หรือหมายความว่าถ้าใครทำสัญญาขอสินเชื่อบ้านในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำในตอนแรก แต่สถานการณ์ภายหลังมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นผลประโยชน์แก่ผู้ขอสินเชื่อเนื่องจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และในส่วนของรูปแบบที่ 2 คือ อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Float Rate) จะมีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยตามสถานการณ์ โดยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยทั้ง 3 ประเภท ตามลักษณะการขอสินเชื่อและผู้ขอสินเชื่อ ดังนี้
- MRR คือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อบ้าน
- MOR คือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเกินบัญชี
- MLR คือ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทสำหรับสินเชื่อระยะยาว
- ธนาคารกสิกรไทย
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ MOR และ MRR ลง 0.25% เหลือ 6.87%
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 15 สิงหาคม 2652 - ธนาคารกรุงไทย
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ MOR และ MRR ลง 0.25% เหลือ 6.87 %
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 15 สิงหาคม 2652 - ธนาคารกรุงเทพ
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ MOR และ MRR ลง 0.25 % เหลือ 6.87 %
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 15 สิงหาคม 2652 - ธนาคารไทยพาณิชย์
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ
อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.125% เหลือ 6.745 %
อัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.25 % เหลือ 7.12%
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 15 สิงหาคม 2652 - ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลง 0.125%
อัตราดอกเบี้ย MRR จากเดิม 6.750% เหลือ 6.625%
อัตราดอกเบี้ย MOR จากเดิม 7.000% เหลือ 6.875%
อัตราดอกเบี้ย MLR จากเดิม 6.250% เหลือ 6.125%
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 16 สิงหาคม 2652 - ธนาคารออมสิน
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ MOR และ MRR ลง 0.13% เหลือ 87 %
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 16 สิงหาคม 2652 - ธนาคารทหารไทย
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลง 0.25 % MRR เหลือ 150% และ MOR เหลือ 425%
โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กันยายน 2562
สำหรับคนที่กำลังจะยื่นขอสินเชื่อบ้าน เพื่อซื้อบ้าน ซื้อคอนโด คงได้รับผลประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในส่วนนี้บ้าง ถึงแม้ว่าภาระหนี้ครัวเรือนอื่น ๆ เช่น การขอสินเชื่อซื้อรถยนต์ซึ่งไม่ได้ใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว จะไม่ได้รับผลกระทบจากการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ แต่คาดว่าในภาพรวมคงมีผู้ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการการลดดอกเบี้ยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไม่มากก็น้อย
ที่มา :https://www.tooktee.com/content/detail/1604/
#สินเชื่อบ้าน #ดอกเบี้ยบ้าน #กู้ซื้อบ้าน #ดอกเบี้ยบ้าน ธอส #สินเชื่อบ้านออมสิน # mrr ธอส #สินเชื่อธนาคารไทยพาณิชย์ #สินเชื่อบ้านกสิกร
ที่มา: https://www.tooktee.com/content/detail/1597
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น